BOI คืออะไร
BOI (Board of Investment) เป็นหน่วยงานรัฐ มีชื่อว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน มีหน้าที่ส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในประเทศไทย ทั้งนักลงทุนชาวไทยและต่างชาติ ทุกขนาดการลงทุน เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี และไม่เกี่ยวกับภาษี เช่น การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล การยกเว้นอากรนำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบ การอนุญาตให้นำช่างฝีมือจากต่างประเทศมาทำงานในโครงการ โดยธุรกิจที่ขอรับการสนับสนุนจาก BOI จะครอบคลุม 8 อุตสาหกรรมหลักๆ ทั้งภาคเกษตร อุตสาหกรรม บริการ
ที่มาของการนำ BOI มาใช้เพื่อส่งเสริมการลงทุน
หากมองย้อนกลับไปประมาณ 5 ปีที่แล้ว ทางรัฐบาลได้มีการปรับเปลี่ยนนโยบายการลงทุนสำหรับชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย พร้อมกับต้องการยกระดับกิจการในไทยให้มีมาตรฐาน มีนวัตกรรมที่ดียิ่งขึ้น ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี ความคิดสร้างสรรค์ และนวัตกรรม รัฐบาลจึงได้มอบหมายให้ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน BOI เป็นตัวแทนทำหน้าที่ให้การส่งเสริมนักลงทุนทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ช่วยพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน กระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประเทศไทย ซึ่งจากเดิมส่งเสริมกิจการตามเขตหรือนิคมอุตสาหกรรมเท่านั้น ปรับมาเป็นส่งเสริมตามประเภทกิจการแบ่งเป็น 8 อุตสาหกรรม โดยกำหนดเป้าหมายตามนโยบายประเทศไทย 4.0 มุ่งเน้นให้การสนับสนุนธุรกิจสร้างมูลค่าเพิ่ม (Value-Added Products) การวิจัยและพัฒนา การสร้างนวัตกรรม และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)
เงื่อนไขหลัก คือ บริษัทสัญชาติใดก็ตามที่ประกอบธุรกิจในไทย สามารถยื่นเรื่องขอรับการส่งเสริมได้ หากบริษัทผ่านเงื่อนไขและได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน บริษัทจะมีสถานะเป็น “บริษัทที่ได้รับการส่งเสริม BOI” และได้รับบัตรส่งเสริมการลงทุน พร้อมสิทธิประโยชน์ เช่น ยกเว้นภาษีนิติบุคคล 3 ปี ยกเว้นอากรนำเข้าเครื่องจักรทั้งหมด เป็นต้น
ประเภทกิจการที่ BOI ให้การส่งเสริมการลงทุน
BOI แบ่งบัญชีประเภทกิจการที่ให้การส่งเสริมออกเป็น 8 หมวด ดังนี้
- เกษตรกรรมและผลิตผลทางเกษตร เช่น การปลูกพืชเศรษฐกิจ การปรับปรุงพันธุ์พืช การผลิตอาหารและยาทางการแพทย์
- ผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง เช่น การผลิตเครื่องจักรกล การผลิตอุปกรณ์และชิ้นส่วน การผลิตเครื่องยนต์ เกียร์ และระบบขับเคลื่อน
- เหมืองแร่ เซรามิกส์ และโลหะขั้นมูลฐาน เช่น การทำเหมืองแร่ การผลิตแก้ว การผลิตเซรามิกส์ การผลิตเหล็กและโลหะพื้นฐานอื่นๆ
- อุตสาหกรรมเบา เช่น การผลิตสิ่งทอ การผลิตเครื่องมือแพทย์หรือชิ้นส่วน การผลิตของเล่น การผลิตกระเป๋าและรองเท้า
- อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น การผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า การพัฒนาและผลิตซอฟต์แวร์ การออกแบบและผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
- กิจการบริการและสาธารณูปโภค เช่น การขนส่งมวลชน การผลิตพลังงานไฟฟ้าจากชีวมวล ขยะ ลม แสงแดด และน้ำ การบริการทางการแพทย์
- การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น การพัฒนาไบโอเทคโนโลยี การพัฒนานาโนเทคโนโลยี การพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล และการพัฒนาเทคโนโลยีวัสดุศาสตร์ขั้นสูง
- เคมีภัณฑ์ กระดาษ และพลาสติก เช่น การผลิตยา การผลิตสารเคมี การผลิตกระดาษและบรรจุภัณฑ์ การผลิตพอลิเมอร์ และการผลิตสิ่งพิมพ์
ยื่นขอรับการสนับสนุนกิจการจะได้สิทธิอะไรบ้าง
ขั้นตอนการขอ BOI
- ศึกษาข้อมูลขอรับการส่งเสริมการลงทุน โดยเป็นกิจการที่อยู่ภายใต้เงื่อไขที่ BOI กำหนด
- ยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุน
- ชี้แจงโครงการ
- วิเคราะห์โครงการ โดยใช้ระยะเวลาการพิจารณาตามขนาดการลงทุน
- แจ้งผลพิจารณา
- ตอบรับมติการส่งเสริมการลงทุน
- ขอรับบัตรส่งเสริม ผู้ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ยื่นขอรับบัตรส่งเสริม พร้อมหลักฐานประกอบการพิจารณา ภายใน 6 เดือน
- ออกบัตรส่งเสริม